เครื่องมือคำนวณ BMR TDEE และแคลอรี่ต่อวัน ใช้งานฟรี | บุญยินดีคลินิก

เครื่องคำนวณ BMR & TDEE: รู้แคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวัน

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่บางคนแค่นิดหน่อยน้ำหนักก็ขึ้น? คำตอบอยู่ใน “อัตราการเผาผลาญพลังงาน” ของแต่ละคน 

เครื่องมือ คำนวณ BMR TDEE ของบุญยินดีคลินิก จะช่วยให้คุณค้นพบตัวเลขมหัศจรรย์นี้ เพื่อนำไปวางแผนการกินและการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

BMR คืออะไร?

BMR (Basal Metabolic Rate) คือ อัตราการเผาผลาญพลังงานพื้นฐาน ของร่างกาย พูดง่ายๆ คือ จำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายต้องใช้เพื่อให้ระบบสำคัญต่างๆ ทำงาน เช่น การหายใจ การไหลเวียนเลือด การทำงานของสมอง ในขณะที่เรา นอนพักอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย

ค่า BMR ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้:

  • เพศ: โดยทั่วไปผู้ชายมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่า ทำให้ BMR สูงกว่า
  • อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญจะค่อยๆ ลดลง
  • น้ำหนักและส่วนสูง: คนที่ตัวใหญ่กว่ามักจะมีค่า BMR ที่สูงกว่า

TDEE คืออะไร? ทำไมสำคัญกว่า BMR?

TDEE (Total Daily Energy Expenditure) คือ พลังงานทั้งหมดที่ร่างกายใช้ในแต่ละวัน ซึ่งเป็นค่าที่ สำคัญกว่า เพราะมันรวมค่า BMR เข้ากับพลังงานที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมด ตั้งแต่การเดิน การทำงาน ไปจนถึงการออกกำลังกาย

สูตรง่ายๆ คือ: TDEE = BMR x ค่ากิจกรรม (Activity Level)

ค่า TDEE นี้เอง คือตัวเลข “แคลอรี่” ที่แท้จริงที่คุณควรยึดเป็นหลักในการวางแผนการกิน

วิธีคำนวณและใช้งานเครื่องมือ

เพียงกรอกข้อมูลของคุณด้านล่างเพื่อหาค่า BMR และ TDEE ได้ทันที

1. กรอกข้อมูลส่วนตัว: เพศ อายุ น้ำหนัก (กก.) และส่วนสูง (ซม.)

2. เลือกระดับกิจกรรมของคุณ: เลือกข้อที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

      * ไม่ออกกำลังกายเลย: ทำงานออฟฟิศ นั่งเป็นส่วนใหญ่

      * ออกกำลังกายเบาๆ (1-3 วัน/สัปดาห์): เช่น เดิน โยคะ

      * ออกกำลังกายปานกลาง (3-5 วัน/สัปดาห์): เช่น วิ่งเหยาะๆ ยกเวท

      * ออกกำลังกายหนัก (6-7 วัน/สัปดาห์): เข้ายิมสม่ำเสมอ เล่นกีฬาหนัก

      * ออกกำลังกายหนักมาก (ทุกวันเช้า-เย็น): นักกีฬา หรือผู้ที่ใช้แรงงานหนัก

โปรแกรมคำนวณแคลอรี่ที่ต้องการต่อวัน (BMR/TDEE)

โปรแกรมคำนวณแคลอรี่ที่ต้องการต่อวัน (BMR/TDEE)

เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการเพื่อเริ่มต้น

ส่วนที่ 1: ข้อมูลทั่วไป (ผู้ใหญ่)

ส่วนที่ 2: ผลการคำนวณและเป้าหมาย

ดัชนีมวลกาย (BMI)

0.0 kg/m²

(เกณฑ์ปกติ: 18.5 - 22.9)

พลังงานที่ต้องการต่อวัน (TDEE)

0 kcal

พลังงานสำหรับรักษาน้ำหนัก

พลังงานเป้าหมายต่อวัน

0 kcal/วัน

สัดส่วนสารอาหารเป้าหมายและตัวอย่างปริมาณอาหาร

คาร์โบไฮเดรต

0 กรัม

≈ ข้าวสวย 0.0 ทัพพี

โปรตีน

0 กรัม

≈ อกไก่ 0.0 ขีด

ไขมัน

0 กรัม

≈ น้ำมัน 0.0 ช้อนชา

คำแนะนำและตัวอย่างอาหาร

ใช้หลักการ "จานอาหารสุขภาพ 2:1:1" (ผัก 2 ส่วน, โปรตีน 1 ส่วน, คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน 1 ส่วน) และเลือกทานจากตัวอย่างเหล่านี้:

☀️ มื้อเช้า (เริ่มต้นวันอย่างมีพลัง)

  • ข้าวโอ๊ต + นมไขมันต่ำ + ผลไม้เบอร์รี่
  • ไข่ต้ม 2 ฟอง + ขนมปังโฮลวีท 1 แผ่น
  • โจ๊กข้าวกล้องใส่ไข่และอกไก่ฉีก

🥗 มื้อกลางวัน (เน้นโปรตีนและผัก)

  • เกาเหลา/สุกี้น้ำ (ไม่ใส่กระเทียมเจียว)
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + แกงจืดเต้าหู้หมูสับ
  • สลัดผักอกไก่ย่าง + น้ำสลัดใส

🌙 มื้อเย็น (เบาๆ ย่อยง่าย)

  • ปลานึ่ง/ย่าง + ผักลวกจิ้มน้ำพริก
  • ต้มยำน้ำใส (ใส่ไก่/ปลา/เห็ด)
  • สเต็กอกไก่/ปลา + สลัดผัก

🍎 มื้อว่าง (เลือกของดีมีประโยชน์)

  • กรีกโยเกิร์ตไขมันต่ำ (ไม่หวาน)
  • ผลไม้หวานน้อย (ฝรั่ง, แอปเปิ้ล)
  • ถั่วอัลมอนด์/วอลนัท 1 กำมือ

ส่วนที่ 1: ข้อมูลของน้อง

ส่วนที่ 2: ผลการคำนวณและเป้าหมาย

BMR (พลังงานพื้นฐาน)

0 kcal/วัน

TDEE (พลังงานที่ต้องการ)

0 kcal/วัน

ส่วนที่ 3: คำแนะนำสำหรับเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกิน/อ้วน

🥦 การปรับเปลี่ยนอาหาร (Food Swap)

  • เปลี่ยน ขนมกรุบกรอบ เป็น ผลไม้รสไม่หวาน (ฝรั่ง, ชมพู่, แอปเปิ้ล)
  • เปลี่ยน น้ำอัดลม/น้ำหวาน เป็น น้ำเปล่า หรือนมจืด
  • เปลี่ยน ของทอด เป็น ของต้ม, นึ่ง, ย่าง, อบ
  • เปลี่ยน ข้าวขาว เป็น ข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพื่อเพิ่มใยอาหาร
  • เพิ่ม ผักในทุกมื้ออาหาร เพื่อให้อิ่มเร็วขึ้นและได้รับวิตามิน

🏃‍♂️ การเพิ่มกิจกรรมทางกาย (Get Moving)

  • ตั้งเป้าหมายให้เด็กได้ขยับร่างกายอย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน
  • หากิจกรรมที่เด็กชอบ เช่น ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, เต้น, เล่นฟุตบอล
  • ชวนทำงานบ้านง่ายๆ เช่น ช่วยล้างจาน, กวาดบ้าน, รดน้ำต้นไม้

📺 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Lifestyle Change)

  • ลดเวลาหน้าจอ (ทีวี, แท็บเล็ต, มือถือ) ไม่ให้เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน
  • กำหนดเวลากินอาหาร ให้เป็นเวลา ไม่กินจุบจิบ
  • ฝึกเคี้ยวอาหารช้าๆ จะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ดีขึ้น
  • นอนหลับให้เพียงพอ (9-11 ชั่วโมง) เพราะการนอนไม่พอส่งผลต่อฮอร์โมนความหิว
  • ผู้ปกครองเป็นแบบอย่างที่ดี ในการเลือกทานอาหารและการออกกำลังกาย

นำค่า BMR และ TDEE ไปใช้อย่างไร?

เมื่อคุณได้ค่า TDEE ของคุณแล้ว ลองนำไปปรับใช้กับเป้าหมายของคุณได้เลย

  • 🎯ต้องการลดน้ำหนัก:

    • กินให้น้อยกว่าค่า TDEE ประมาณ 300-500 kcal ต่อวัน

    • ตัวอย่าง: หาก TDEE ของคุณคือ 2,000 kcal ควรตั้งเป้ากินประมาณ 1,500-1,700 kcal เพื่อสร้างภาวะขาดดุลแคลอรี่ (Calorie Deficit) ซึ่งจะทำให้ร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้ จะทำให้ลดน้ำหนักได้ประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นอัตราที่ปลอดภัยและยั่งยืน

  • ⚖️ เพื่อรักษาน้ำหนัก: ทานให้เท่ากับค่า TDEE ของคุณโดยประมาณ

  • 💪 เพื่อเพิ่มน้ำหนัก/สร้างกล้ามเนื้อ: ทานให้มากกว่าค่า TDEE ประมาณ 300-500 แคลอรี่ต่อวัน

    • ควรเน้นการกินอาหารที่มีโปรตีนสูงควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เพื่อให้ร่างกายนำพลังงานส่วนเกินไปใช้สร้างกล้ามเนื้อ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  • ถาม: ทำไมค่า BMR/TDEE ที่คำนวณจากเว็บอื่นถึงไม่เท่ากัน?

    • ตอบ: เพราะอาจใช้สูตรคำนวณคนละสูตร (เช่น Mifflin-St Jeor หรือ Harris-Benedict) ซึ่งให้ผลลัพธ์ต่างกันเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วค่าที่ได้จะใกล้เคียงกัน สามารถใช้เป็นแนวทางได้ครับ

  • ถาม: ถ้าอยากลดน้ำหนักแล้วคำนวณแคลอรี่เพื่อลดน้ำหนัก (TDEE – 300) แต่ได้ผลลัพธ์ต่ำกว่า BMR ควรทำอย่างไร?

    • ตอบ: ให้ยึดค่า BMR เป็นเกณฑ์การกินขั้นต่ำสุด ห้ามกินน้อยกว่าค่า BMR เด็ดขาดครับ ในกรณีนี้ ให้คุณตั้งเป้าหมายการกินที่ “เท่ากับค่า BMR ของคุณ” ไปก่อน ซึ่งจะทำให้น้ำหนักลดลงช้ากว่า แต่ปลอดภัยและไม่ทำลายระบบเผาผลาญ วิธีแก้ปัญหาระยะยาวที่ดีที่สุดคือ การเพิ่มกิจกรรมและออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มค่า TDEE ให้สูงขึ้น จะทำให้คุณมีช่วงว่างในการลดแคลอรี่ที่กว้างและปลอดภัยกว่าเดิมครับ

  • ถาม: ถ้าวันไหนออกกำลังกายหนัก ควรต้องกินเพิ่มไหม?

    • ตอบ: ค่า TDEE ที่คำนวณได้เป็นค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ หากวันไหนคุณออกกำลังกายหนักกว่าปกติมาก ร่างกายอาจต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คุณสามารถกินเพิ่มได้ แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลมากหากไลฟ์สไตล์โดยรวมของคุณสอดคล้องกับค่ากิจกรรมที่เลือกไว้

 

ข้อควรระวัง: เครื่องคำนวณนี้เป็นเพียงเครื่องมือประเมินเบื้องต้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ หรือต้องการโปรแกรมการกินที่เฉพาะเจาะจง ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการมืออาชีพ

 

ตัวเลขจากการ คำนวณ BMR TDEE เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้นที่ยอดเยี่ยม แต่การวางแผนสุขภาพที่ดีที่สุดต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคประจำตัว, องค์ประกอบร่างกาย (มวลกล้ามเนื้อ vs ไขมัน), และเป้าหมายสุขภาพเชิงลึก

การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเปลี่ยนข้อมูลที่คุณได้รับ ให้กลายเป็น แผนโภชนาการและการดูแลสุขภาพที่จับต้องได้และปลอดภัย เหมาะสำหรับคุณคนเดียวเท่านั้น