Liraglutide (Saxenda): เจาะลึกปากกาลดน้ำหนักรุ่นพี่ ยังน่าสนใจไหมในปี 2025 เมื่อเทียบกับรุ่นใหม่?
ศึกปากกาลดน้ำหนักที่ร้อนแรงที่สุดในทศวรรษ
ในยุคที่ “ปากกาลดน้ำหนัก” กลายเป็นคำค้นหายอดฮิต หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อยาใหม่ๆ ที่กำลังโด่งดังอย่าง Semaglutide (Ozempic/Wegovy) หรือ Tirzepatide (Mounjaro/Zepbound) ที่ให้ผลลัพธ์น่าทึ่ง แต่ท่ามกลางกระแสของยารุ่นใหม่ หลายคนอาจมีคำถามว่า แล้วยารุ่นพี่อย่าง Liraglutide (ลิรากลูไทด์) ที่หลายคนรู้จักในชื่อ Saxenda® ยังคงมีที่ยืนอยู่หรือไม่? ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่หรือเปล่า?
บทความนี้ บุญยินดีคลินิก จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ Liraglutide ตั้งแต่พื้นฐานการทำงาน การเปรียบเทียบกับยารุ่นใหม่แบบหมัดต่อหมัด พร้อมข่าวสารล่าสุดจากงานวิจัยที่อาจทำให้คุณต้องมองยาตัวนี้ในมุมใหม่

Liraglutide คืออะไร? ทำความรู้จักปากกาลดน้ำหนักรุ่นแรกๆ
Liraglutide คือตัวยาในกลุ่ม GLP-1 Receptor Agonist ที่ออกฤทธิ์เลียนแบบฮอร์โมนในลำไส้ของเรา กลไกหลักๆ ที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในเลือดคือ:
ลดความอยากอาหาร: ส่งสัญญาณไปที่สมองส่วนกลาง ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและนานขึ้น
ชะลอการย่อยอาหาร: ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น ช่วยให้ไม่หิวง่าย
ควบคุมน้ำตาล (สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน): กระตุ้นการหลั่งอินซูลินเมื่อระดับน้ำตาลสูง
ในประเทศไทย Liraglutide ได้รับการอนุมัติภายใต้ 2 ชื่อการค้าหลักคือ:
Victoza®: สำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2
Saxenda®: สำหรับควบคุมน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
เจาะลึกการเปรียบเทียบ: Liraglutide vs Semaglutide vs Tirzepatide
เป็นเรื่องจริงที่ว่าหากวัดกันที่ “ประสิทธิภาพการลดน้ำหนักสูงสุด” ยารุ่นใหม่อย่าง Semaglutide และโดยเฉพาะ Tirzepatide ให้ผลลัพธ์เป็นตัวเลขที่สูงกว่า แต่ Liraglutide (Saxenda®) ก็มีข้อดีในมุมอื่นที่น่าสนใจและอาจเหมาะสมกับคนไข้บางกลุ่มมากกว่า

แล้ว Liraglutide (Saxenda®) ดีกว่าในด้านไหนบ้าง?
1. ความยืดหยุ่นสูง: ปรับไว หยุดง่าย เห็นผลลัพธ์ไว (Flexible: Adjust Fast, Stop Easy, Feel Effects Quickly)
นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของ Liraglutide ซึ่งมาจากรูปแบบการฉีดยาทุกวัน ทำให้การควบคุมอยู่ในมือของแพทย์และคนไข้ได้มากกว่า เปรียบเสมือนการควบคุมสวิตช์ไฟที่เปิด-ปิด หรือหรี่ไฟได้ทุกวัน ต่างจากยาฉีดรายสัปดาห์ที่เป็นเหมือนสวิตช์อัตโนมัติที่ตั้งเวลาไว้ 7 วัน
หยุดยาได้ทันทีเมื่อเกิดผลข้างเคียงรุนแรง: ยา Liraglutide มีค่าครึ่งชีวิต (Half-life) สั้น หมายความว่ายาจะถูกกำจัดออกจากร่างกายส่วนใหญ่ภายใน 24-48 ชั่วโมง หากคนไข้มีอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น คลื่นไส้หนักมากจนทนไม่ไหว แพทย์สามารถแนะนำให้หยุดยาได้ทันที และอาการเหล่านั้นจะทุเลาลงอย่างรวดเร็วใน 1-2 วัน ซึ่งสร้างความปลอดภัยและความสบายใจให้คนไข้ได้มากกว่ายาที่ออกฤทธิ์นานเป็นสัปดาห์
ปรับเพิ่ม-ลดขนาดยาได้แบบวันต่อวัน: การไต่ระดับยา (Titration) ทำได้ละเอียดกว่ามาก หากคนไข้ทนผลข้างเคียงที่ขนาดปัจจุบันไม่ไหว แพทย์สามารถแนะนำให้ลดขนาดยาลงได้ทันทีในวันถัดไป ไม่ต้องรอให้ครบสัปดาห์ ในทางกลับกัน หากร่างกายปรับตัวได้ดี ก็สามารถเพิ่มขนาดยาตามแผนได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การปรับยาเหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคนได้อย่างแท้จริง
รู้สึกถึงผลของยาได้เร็ว: เนื่องจากเป็นยาที่ฉีดทุกวัน คนไข้ส่วนใหญ่จึงเริ่มรู้สึกถึงผลของยา เช่น ความอยากอาหารลดลง หรืออิ่มเร็วขึ้น ได้ภายใน 1-2 วันแรกของการเริ่มยา ซึ่งช่วยสร้างกำลังใจในการควบคุมน้ำหนักได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น
2. ประสบการณ์การใช้และข้อมูลความปลอดภัยในระยะยาวที่มากกว่า
Liraglutide (ในชื่อ Victoza® สำหรับเบาหวาน และ Saxenda® สำหรับลดน้ำหนัก) ได้รับการอนุมัติและใช้งานมานานกว่า Semaglutide และ Tirzepatide ทำให้มีข้อมูลการใช้งานจริงในคนไข้ทั่วโลก (Real-world data) และข้อมูลความปลอดภัยในระยะยาวสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก แพทย์หลายท่านจึงมีความคุ้นเคยและประสบการณ์ในการใช้ยาตัวนี้สูง สามารถให้คำแนะนำและจัดการผลข้างเคียงได้อย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งอาจสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้บางกลุ่มที่กังวลเกี่ยวกับยาใหม่ๆ
3. การเข้าถึงยาและราคา (อาจแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาล)
ในบางประเทศหรือบางโรงพยาบาล ยาที่ออกมานานกว่าอย่าง Liraglutide อาจมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า หรือมีสต็อกยาที่แน่นอนกว่ายาที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ซึ่งอาจยังมีการนำเข้าที่จำกัดหรือมีราคาสูงกว่า การเป็นยาที่มีใช้มานานอาจทำให้เป็นตัวเลือกมาตรฐานในบัญชียาของโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำให้การเข้าถึงสำหรับคนไข้ทำได้ง่ายกว่า

ข่าวล่าสุด! ศักยภาพของ Liraglutide ที่อาจไปไกลกว่าการลดน้ำหนัก
ล่าสุดมีผลการวิจัยที่น่าตื่นเต้นจากการศึกษาที่ชื่อว่า ELAD (Evaluating Liraglutide in Alzheimer’s Disease) ซึ่งได้รับทุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ (NIH) ผลเบื้องต้นที่นำเสนอในปี 2024 พบว่า Liraglutide อาจมีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมถอยของสมองและความจำในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้นได้
แม้จะยังต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน แต่ข้อมูลนี้ก็แสดงให้เห็นว่าประโยชน์ของ Liraglutide อาจมีมากกว่าที่เราเคยรู้ และยังคงเป็นยาที่อยู่ในความสนใจของวงการแพทย์ทั่วโลก
สรุป: ใครคือคนที่เหมาะกับ Liraglutide (Saxenda®)?
Liraglutide ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยอาจเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับ:
- ผู้ที่เริ่มต้นใช้ยา: และมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง: สามารถปรับหรือหยุดยาได้รวดเร็วหากจำเป็น
- ผู้ที่ร่างกายไวต่อยา: และต้องการการปรับขนาดยาที่ค่อยเป็นค่อยไปและละเอียด
ผู้ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลความปลอดภัยระยะยาว: และเลือกใช้ยาที่แพทย์มีความคุ้นเคยสูง
ข้อสำคัญ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น การตัดสินใจเลือกใช้ปากกาลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นตัวใดก็ตาม ควรอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสมกับร่างกาย เป้าหมาย และไลฟ์สไตล์ของคุณ เพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างปลอดภัยและยั่งยืน
